คะแนนจากผู้ซื้อ

หนังสือ เมื่อโลกซึมเศร้า: Mark Fisher โลกสัจนิยมแบบทุน และลัดดาแลนด์ โดย สรวิศ ชัยนาม (ปกอ่อน)
มาเป็นคนแรกที่รีวิวพรีเมี่ยมสินค้านี้
รายละเอียดครบ
(รอ)
ตรงกับหน้าเว็บ
(รอ)
ราคาคุ้มค่า
(รอ)
คุณภาพสินค้า
(รอ)
ไฮไลท์
เข้าเล่มปกอ่อนจำนวน 248 หน้า
หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็นสามส่วนด้วยกัน ส่วนแรกเป็นการอรรถาธิบายแนวคิดเรื่องโลกสัจนิยมแบบทุนของ Mark Fisher ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์ของเรา โดยเน้นไปที่ความพยายามของ Fisher ในการสร้างความเป็นการเมืองให้กับสุขภาพจิตเสียใหม่ในบริบทของอัตราความเจ็บป่วยทางจิตที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก
Fisher ไม่ได้จะบอกว่าความเจ็บป่วยทางจิตทั้งหมดมีสาเหตุมาจากทุนนิยม เขาไม่ใช่พวกที่มีทรรศนะแบบลดทอนทางเศรษฐกิจ (economic reductionist) หรือนิยัตินิยม (determinist) แต่ประเด็นที่เขาจะบอกมีอยู่ว่า การมองว่าความเจ็บป่วยทางจิตไม่มีความเกี่ยวข้องกับทุนนิยมเลยนั้นเป็นฐานคติที่ใช้ไม่ได้ เพราะฉะนั้น การรักษาอาการเจ็บป่วยทางจิตจึงไม่อาจไม่เกี่ยวกับการเมืองที่ต่อต้านทุนนิยมและการเมืองเพื่อการปลดปล่อย กล่าวอีกอย่างก็คือ ความพยายามใด ๆ ก็ตามที่จะรักษาโรคซึมเศร้าโดยไม่เผชิญหน้ากับทุนนิยมเป็นได้เพียงการเลี้ยงไข้หรือทำให้อาการแย่ลง (ซึ่งยิ่งทำให้บริษัทยายักษ์ใหญ่รวยขึ้น อะไรแบบนี้) เท่านั้น
ในส่วนที่สอง ผมนำงานของนักวิชาการท่านอื่น ๆ มาเสริมแนวคิดของ Fisher ในเรื่องที่ว่าทำไมความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การงาน และความเพ้อฝันเรื่องการโยนความรับผิดชอบไปที่ปัจเจกล้วนเป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ก่อให้เกิดโรคซึมเศร้า สิ่งที่ต้องการจะสื่อในส่วนนี้ก็คือ การประเมินคุณค่าของงานเสียใหม่ การลดชั่วโมงทำงานลงขนานใหญ่ การเคลื่อนไหวเพื่อความเป็นธรรมในด้านการจัดสรรกระจายทรัพยากรและความมั่งคั่งกลับสู่สังคม (redistributive justice) และการจัดตั้งการต่อสู้เพื่อล้มล้างทุนนิยม ล้วนเป็นยาต้านเศร้าที่เรานำมาใช้ได้ทั้งสิ้น
ในส่วนสุดท้าย ผมจะวิเคราะห์ลัดดาแลนด์ผ่านกรอบของโลกสัจนิยมแบบทุนและความทุกข์ทรมานทางจิต โดยถอดสารที่แสดงความต่อต้านทุนนิยมออกมาพร้อม ๆ กับชี้ให้เห็นถึงข้อจำกัดของหนังเรื่องนี้
บางส่วนจากคำนำ
สรวิศ ชัยนาม
ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
ภาพยนตร์ช่วยทำให้เราเห็นภาพว่าทุนทำลายชีวิต ร่างกายและจิตใจของเราได้อย่างไร โดยให้กรอบที่เราสามารถใช้ตีความและมีปฏิสัมพันธ์กับความเป็นจริงของโลกทุนนิยม และเชื่อมโยงผู้คนที่มีกรอบความคิดเดียวกันเข้าไว้ด้วยกัน ยิ่งถ้าเป็นภาพยนตร์แนวดิสโทเปียและแนวสยองขวัญด้วยแล้วยิ่งช่วยให้เรา “เห็น” ทุนนิยมได้แจ่มชัดเป็นพิเศษ พูดอีกอย่างก็คือ หนัง ซึ่งเป็นเรื่องแต่งหรือ “เรื่องลวง” บอกเล่าความจริงเกี่ยวกับทุนนิยมได้ดีกว่างานวิชาการส่วนใหญ่ซะอีก ในงานเขียนเล่มก่อน ๆ ผมพยายามคลี่ประเด็นทางการเมืองที่แสดงออกว่าต่อต้านทุนนิยมและพยายามปลดปล่อยเป็นอิสระซึ่งสื่อออกมาในหนังฮอลลีวูดแนวดิสโทเปียหลายเรื่อง เช่น In Time, The Snowpiercer และ The Lobster วัฒนธรรมสมัยนิยมก็เป็นพื้นที่ที่การต่อสู้เพื่อล้มล้างทุนนิยมสามารถเกิดขึ้นได้เหมือนกัน และต้องเป็นพื้นที่ให้เกิดสิ่งนี้ได้ด้วย ไม่ใช่แค่ในการเมืองและเศรษฐศาสตร์เท่านั้น ไม่มีอาณาบริเวณใดในชีวิตที่ทุนยังรุกล้ำไปไม่ถึง ในดิสโทเปียไม่สิ้นหวัง  ผมเน้นประเด็นที่ว่าทุนกำลังทำลายโลกและได้เปลี่ยนอนาคตของเราให้กลายเป็นฝันร้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เรายังคงต่อกรกับมันได้ ในทำไมต้องตกหลุมรัก?  ผมเสนอว่าทุนนิยมเป็นศัตรูของความรักและกำลังทำลายชีวิตรักของเรา ส่วนในหนังสือเล่มบาง ๆ เล่มนี้ ผมจะแสดงให้เห็นว่าทุนนิยมยุคปลายกำลังทำลายสุขภาพจิตของเราอย่างรุนแรง 
 
นอกจากนี้ผมจะเปลี่ยนไปวิเคราะห์ภาพยนตร์สยองขวัญแทนหนังดิสโทเปีย โดยยึดตามข้อสังเกตของ Mark Fisher และ Mark Steven และใช้แนวคิดของทั้งสองในการตีความภาพยนตร์เรื่องลัดดาแลนด์ (กำกับโดยโสภณ ศักดาพิศิษฐ์ ออกฉายปี 2011) ซึ่งกลายเป็นหนังฮิตติดอันดับบ็อกซ์ออฟฟิศกวาดรายได้ไปกว่าร้อยล้านบาท และยังคว้ารางวัลสุพรรณหงส์ประจำปี 2012 ไปหลายสาขา รวมทั้งรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม Fisher กล่าวไว้ว่า ‘การบรรยายทุนแบบที่โกธิค*ที่สุดก็คือการบรรยายที่ใกล้เคียงความจริงที่สุด ทุนเป็นปรสิตในเชิงนามธรรม เป็นแวมไพร์ที่ไม่มีวันดูดเลือดอิ่ม และเป็นผู้สร้างซอมบี้’  Steven บอกว่า ‘ทุนนิยมเป็นหนังเลือดสาด (splatter film) ที่น่าขนลุก น่าขยะแขยงที่สุดที่เราจะได้เห็น’   และเสริมว่า ‘เราทุกคนต่างอยู่ในหนังเลือดสาดเรื่องเดียวกันและเราก็ควรรังเกียจมันถึงที่สุด’  
 
แม้จะไม่ใช่หนังประเภทเลือดสาด แต่ลัดดาแลนด์ก็แสดงให้เราเห็นอย่างชัดเจนว่าทุนนิยมต่างหากที่เป็นความสยดสยองที่แท้จริง ไม่ใช่พวกผีที่ออกมาให้เราเห็นแค่ประปราย และทุนนิยมเปลี่ยนเราให้เป็น ‘ปิศาจร้าย’ ได้อย่างไร หนังเรื่องนี้สื่อออกมาว่าต้านทุนนิยมอย่างค่อนข้างชัดเจน และยังทำได้ดีมากในการทำให้เราเห็นหรือนึกถึงความเชื่อมโยงกันระหว่างสองด้าน โดยด้านหนึ่งคือความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น ความมีขึ้นมีลงของระบบทุนนิยม และความเพ้อฝันเรื่องการโยนความรับผิดชอบไปที่ปัจเจก (self-responsibilization) ซึ่งสร้างแรงปรารถนาต่าง ๆ ที่ค้ำจุนระบบทุนนิยมเอาไว้ กับอีกด้านหนึ่งคือภาวะบีบคั้นทางจิต คนที่ซึมเศร้า คนที่หมดไฟ คนที่ฆ่าตัวตาย และฆาตกรสังหารหมู่ต่างหากที่เป็นสิ่งที่แสดงออกชัดว่าเรากำลังอยู่ในทุนนิยมยุคปลาย ไม่ใช่พวกศาสดาพยากรณ์จอมปลอมที่เครื่องจักรชวนเชื่อของทุนนิยมป่าวประกาศว่าเป็นนักคิดค้น ผู้ประกอบการ และ ‘ผู้นำทางความคิด’ อันที่จริงแล้ว ผู้มีภาวะซึมเศร้าสามารถบอกความจริงเกี่ยวกับทุนนิยมที่ไม่มีใครกล้าพูดถึงได้ดีกว่าผู้นำทางความคิดเสียอีก
 
อย่างแรกเลยก็คือ การถามว่าโรคซึมเศร้าเกิดจากความไม่สมดุลทางเคมีในสมองหรือหรือปัจจัยด้านสังคมกันแน่นั้นเป็นคำถามที่ผิด นี่เป็นเรื่องที่เราไม่อาจลดทอนให้เหลือแค่เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ในประเด็นเรื่องโรคซึมเศร้า Mark Fisher กล่าวว่า ‘เรื่องส่วนตัวไม่เคยใช่เรื่องส่วนตัวจริง ๆ (The personal is impersonal)  โดยหมายความว่าเรื่องส่วนตัวนั้นเป็นเรื่องของส่วนรวมด้วย เพราะฉะนั้นปัญหา ‘ส่วนตัว’ จึงอาจแพร่หลายหรือพบได้ทั่วไป เราอาจอธิบายแบบนี้ก็ได้ว่า เรื่องส่วนตัวนั้นมีความแยกย่อย เต็มไปด้วยความขัดแย้ง และไม่ใช่ว่าปราศจากความย้อนแย้งภายใน ก ไม่ได้เท่ากับ ก  แล้วใน ก ยังมีส่วนที่ไม่ใช่ ก อยู่ด้วย นี่เป็นเพราะว่าเรื่องส่วนตัวมักมีสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแทรกอยู่ระหว่างกลางเสมอ บอกได้ยากว่าอันหนึ่งเริ่มตรงไหนและอีกอันสิ้นสุดที่ใด เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่จำต้องต้องขัดแย้งในตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และมีทั้งสิ่งที่เป็นส่วนตัวและไม่เป็นส่วนตัวในตัวเรา สุขภาพจิตตั้งอยู่บนพรมแดนระหว่างสิ่งที่อยู่ภายใน/ความเป็นส่วนตัวและสิ่งที่อยู่ภายนอก/ความไม่เป็นส่วนตัว ไม่อาจลดทอนให้เหลือแค่สิ่งที่อยู่ภายในหรือสิ่งที่อยู่ภายนอกอย่างใดอย่างหนึ่งได้ แต่เป็นผลจากการปะทะของทั้งสองบริเวณ เพราะฉะนั้น เราจึงไม่สามารถละเลย “เบื้องหลัง” ที่เป็นทุนนิยมได้แม้ในตอนที่เราพูดถึงเรื่อง “ส่วนตัว” เราปะทะกับเบื้องหลังนี้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งทำให้ใครหลาย ๆ คนประสบความทุกข์ทรมานทางจิตได้ง่ายกว่าคนอื่น ๆ พูดอีกอย่างก็คือ ทุนได้เข้ามาดำเนินการอยู่ในระดับจิตใจของบุคคลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โครงสร้างทางสังคมและอำนาจสามารถพบได้ “ภายใน” ตัวของเราเอง เมื่อใดที่เรามองข้ามเบื้องหลังนี้ไป ก็จะเห็นว่ามีแต่ปัจเจกเท่านั้นที่เป็นผู้ต้องรับผิดชอบและสมควรถูกตำหนิ เมื่อปัญหาสังคมไม่ว่าจะเรื่องอะไรถูกทำให้เป็นปัญหาของใครของมัน ทางแก้แต่ละทางก็จะถูกกำจัดความเป็นการเมืองออกไป (de-politicized) และเอื้อเฟื้อต่อทุน เราอาจเรียกกระบวนการนี้ว่า “การป้ายสีให้เป็นปิศาจ (demonization)” ซึ่งทำให้คนยิ่งกล่าวโทษตัวเองและซึมเศร้าหนักขึ้นไปอีก เราจะเห็นกระบวนการนี้เกิดขึ้นในลัดดาแลนด์ น่าเสียดายที่ตอนจบของหนัง ความรู้สึกรังเกียจทุนนิยม ซึ่งสามารถใช้ส่งเสริมการเมืองเพื่อการปลดปล่อย กลับถูกแทนที่ด้วยความโล่งใจและความปรองดอง และการวิเคราะห์เชิงระบบถูกแทนที่ด้วยการวิจารณ์บุคคลรายตัวไปซะเฉย ๆ ข้อบกพร่องตรงนี้ทำให้หนังมีความสอดคล้องกับ ‘โลกสัจนิยมแบบทุน’ คือถึงแม้จะมีลักษณะต่อต้านทุนนิยม แต่ท้ายที่สุดหนังก็ช่วยยืนยันว่าทุนนิยมเป็นเส้นขอบฟ้าที่เราไม่อาจข้ามผ่านไปได้ 
 
บางส่วนจากคำนำ
 
สรวิศ ชัยนาม
หนังสือ เมื่อโลกซึมเศร้า: Mark Fisher โลกสัจนิยมแบบทุน และลัดดาแลนด์ โดย สรวิศ ชัยนาม (ปกอ่อน)
หนังสือ เมื่อโลกซึมเศร้า: Mark Fisher โลกสัจนิยมแบบทุน และลัดดาแลนด์ โดย สรวิศ ชัยนาม (ปกอ่อน)
หนังสือ เมื่อโลกซึมเศร้า: Mark Fisher โลกสัจนิยมแบบทุน และลัดดาแลนด์ โดย สรวิศ ชัยนาม (ปกอ่อน)
หนังสือ เมื่อโลกซึมเศร้า: Mark Fisher โลกสัจนิยมแบบทุน และลัดดาแลนด์ โดย สรวิศ ชัยนาม (ปกอ่อน)
หนังสือ เมื่อโลกซึมเศร้า: Mark Fisher โลกสัจนิยมแบบทุน และลัดดาแลนด์ โดย สรวิศ ชัยนาม (ปกอ่อน)
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags
ขณะนี้ร้านค้าเปลี่ยนมาใช้ระบบรับชำระเงินผ่าน LnwPay กรุณาตรวจสอบข้อมูลวิธีการชำระเงินใหม่อีกครั้ง รายละเอียดเพิ่มเติม

ช่องทางชำระเงินระบบรับชำระเงิน LnwPay

ติดต่อ / สอบถาม

**กรุณาเลือกช่องทางติดต่อตามข้อสงสัยของคุณ ในกรณีที่คุณไม่สามารถติดต่อเจ้าของร้านได้ สามารถติดต่อมายังทีมงาน LnwPay แล้วเราจะช่วยเหลือคุณจนถึงที่สุด

ติดต่อเจ้าของร้าน

เรื่องที่ติดต่อผ่านร้านค้า

  • รายละเอียดสินค้า
  • สต๊อกสินค้า
  • ระยะเวลาการจัดส่ง
pipatens@hotmail.com
ติดต่อ

เรื่องที่ติดต่อผ่าน

  • วิธีการสั่งซื้อสินค้า
  • ชำระเงิน
  • แจ้งปัญหา
support@LnwPay.com

นโยบายการเปลี่ยนหรือคืนสินค้า

  • ระยะเวลาที่ลูกค้าสามารถแจ้งการเปลี่ยน/คืนสินค้าได้ คือภายใน 7 วันนับจากได้รับสินค้า
  • ข้อกำหนดระหว่างการเปลี่ยนสินค้า/คืนเงิน หากสินค้าชำรุด ทางร้านจะเปลี่ยนสินค้าชนิดเดียวกันตัวใหม่ให้ 
  • ร้านค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบในการเรียกเก็บ/จัดส่งสินค้าคืน รวมถึงค่าจัดส่งที่เกิดขึ้น
  • ทางร้านจะสัดส่งสินค้าชิ้นใหม่ให้ หลังจากที่ร้านค้าได้รับสินค้าที่มีปัญหาคืน
มาเป็นคนแรกที่รีวิวพรีเมี่ยมสินค้านี้
มาเป็นคนแรกที่รีวิวพรีเมี่ยมสินค้านี้ให้คนอื่นรับรู้ แถมรับคะแนนสะสม LnwPoints ใช้เป็นส่วนลดในการสั่งซื้อครั้งต่อไป
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านIlluminations Editions
Illuminations Editions
สำนักพิมพ์ใหม่ที่ก่อตั้งอย่างเป็นทางการ คือจดทะเบียนกับกรมการค้าเมื่อเดือน พฤษภาคม 2561 เราเป็นสำนักพิมพ์ที่ทำหนังสือวิชาการที่มีเนื้อหาเข้มข้น รูปเล่มสวยงาม ทันสมัย และมีราคาที่สมเหตุสมผล งานของเรามีตั้งแต่งานของนักวิชาการไทย จนถึงหนังสือหรือบทความที่แปลจากภาษาต่างชาติ ทั้งประวัติศาสตร์ ปรัชญา ทฤษฎีของนักมาร์กซิสม์ ศาสนา ฯลฯ ชื่อ Illuminations แปลว่า ‘การส่องสว่าง’ มาจากชื่อหนังสือที่รวบรวมบทความแปลในภาษาอังกฤษของวอลเตอร์ เบนยามิน (Walter Benjamin) นักปรัชญาและนักวิจารณ์ศิลปะชาวเยอรมัน ซึ่งมีฮันนาห์ อาเรนท์ (Hannah Arendt) เป็นบรรณาธิการ Mission ของเราคือ การติดอาวุธทางปัญญาให้กับผู้อ่านงานของเรา
เบอร์โทร : 0819194716
อีเมล : pipatens@hotmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด

MEMBER

STATISTICS

หน้าที่เข้าชม198,891 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด132,162 ครั้ง
เปิดร้าน8 เม.ย. 2563
ร้านค้าอัพเดท22 ต.ค. 2568
2 คน พอใจร้านนี้ 67%
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
36 คนเป็นสมาชิกร้านนี้
พูดคุย-สอบถาม