จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | 0 ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | ยุโรปศึกษา |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ช่องทางชำระเงิน | ![]() |
ไฮไลท์ |
แต่งโดย เฟอร์ดินันด์ ฟอน ชีรัค
แปลโดย ศศิภา พฤกษฎาจันทร์
เข้าเล่มปกอ่อนจำนวน 240 หน้า
หนังสือ “สะพรึง” แปลมาจากบทละครเรื่อง Terror โดยเฟอร์ดินันด์ ฟอน ชีรัค (Ferdinand von Schirach) เล่มนี้ ได้จำลองเหตุการณ์สมมติที่มีพื้นฐานมาจากกฎหมายฉบับหนึ่งที่ประเทศเยอรมนีตราขึ้นหลังจากเหตุการณ์ 9/11 ได้แก่ รัฐบัญญัติความมั่นคงทางอากาศ ในรัฐบัญญัตินี้มีมาตราหนึ่งที่ให้อำนาจกองทัพใช้อาวุธกระทำต่อเครื่องบินพาณิชย์ที่ถูกจี้และถูกใช้เป็นอาวุธ แต่ต่อมาภายหลัง ศาลรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธ์ได้วินิจฉัยให้มาตราดังกล่าวเป็นโมฆะ เนื่องจากการสละชีวิตคนบริสุทธิ์เพื่อช่วยชีวิตคนบริสุทธิ์อีกกลุ่มหนึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ขัดต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่ถูกรับรองไว้ในมาตรา 1 แห่งกฎหมายพื้นฐาน ซึ่งก็คือรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
บทละครเรื่องนี้จะพาท่านไปสำรวจข้ออภิปรายต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับปัญหาความขัดแย้งระหว่างศีลธรรมกับกฎหมายผ่านบทสนทนาของตัวละครที่มีฉากหลังเป็นการพิจารณาคดีในศาล ความน่าสนใจของบทละครนี้คือการสมมติให้ผู้ชมเป็นคณะลูกขุนที่ร่วมรับฟังการพิจารณาคดี และในการแสดงแต่ละรอบจะให้ผู้ชมเป็นผู้ตัดสินผลลัพธ์ของคดีผ่านการโหวต และในตอนท้ายผลของคดีจะถูกเปิดเผยตามผลโหวตของผู้ชม แต่สำหรับหนังสือจะมีผลของคดีทั้งสองรูปแบบให้ผู้อ่านได้ติดตาม
|
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
การถ่ายทอดปัญหาความขัดแย้งระหว่างศีลธรรมกับกฎหมาย ตลอดจนปัญหาดีชั่วถูกผิดอันเป็นคำถามในทางจริยศาสตร์เพื่อก่อให้เกิดการอภิปรายโต้แย้งกันด้วยเหตุผลนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องทำในรูปของบทความหรืองานเขียนทางวิชาการเท่านั้น ประวัติศาสตร์อารยธรรมของมนุษย์แสดงให้เห็นว่างานเขียนในลักษณะของบทละครเวทีสามารถทำหน้าที่ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี และในหลายครั้งดียิ่งเสียกว่าการถ่ายทอดปัญหาดังกล่าวผ่านงานเขียนทางวิชาการเสียอีก นวนิยายที่ได้รับการประพันธ์ขึ้นในรูปของบทละครเวทีเรื่อง “สะพรึง” (Terror) โดยเฟอร์ดินันด์ ฟอน ชีรัค (Ferdinand von Schirach) ในภาษาเยอรมัน ผ่านการแปลเป็นภาษาไทยโดยศศิภา พฤกษฎาจันทร์ เล่มนี้ ดูเหมือนจะตอกย้ำพลังของงานเขียนในรูปของบทละครให้หนักแน่นยิ่งขึ้น ในบทละครเรื่องนี้ เฟอร์ดินันด์ ฟอน ชีรัค ซึ่งมีประสบการณ์เป็นทนายความในคดีอาญามายาวนานและเมื่อผันตัวเองมาเป็นนักเขียน ก็ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักเขียนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในเยอรมนีในปัจจุบันได้ใช้ฉากการพิจารณาคดีในศาลสะท้อนปัญหาความขัดแย้งในทางจริยศาสตร์เกี่ยวกับมาตรวัดคุณค่าของการกระทำ คดีที่เกิดขึ้นในบทละครเรื่องนี้ แม้เป็นคดีที่สมมติขึ้นในเยอรมนี แต่ก็มีความสมจริงเพราะใช้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจี้เครื่องบินพาณิชย์โดยผู้ก่อการร้ายเป็นฐานในการวางโครงเรื่อง ทั้งนี้ตามเหตุการณ์ 9/11 ที่ผู้ก่อการร้ายได้ใช้เครื่องบินพาณิชย์ที่ถูกจี้เป็นเครื่องมือเพื่อทำลายชีวิตของผู้คนให้มากที่สุด ในส่วนของประเด็นทางกฎหมายนั้น เฟอร์ดินันด์ ฟอน ชีรัค ได้นำเอารัฐบัญญัติความมั่นคงทางอากาศ ค.ศ 2005 และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธ์มาใช้ในบทละครเพื่อชี้ให้เห็นถึงความขัดแย้งในทางความคิดระหว่างรัฐสภากับศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากหลังจากที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบรัฐบัญญัติความมั่นคงทางอากาศ ค.ศ. 2005 แล้ว ศาลรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธ์ได้มีคำวินิจฉัยใน ค.ศ. 2006 ว่าบทบัญญัติที่ให้อำนาจกองทัพสามารถใช้อาวุธยิงเครื่องบินพาณิชย์ที่ถูกจี้และกลายเป็นเพียงเครื่องมือของผู้ก่อการการร้ายได้นั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญและด้วยเหตุดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะ ความขัดแย้งทางความคิดเกี่ยวกับการรับมือกับการก่อการร้ายทั้งตามแนวทางของรัฐสภาและของศาลรัฐธรรมนูญแห่งสหพันธ์สะท้อนผ่านการซักค้านและการเบิกความในศาลของคู่ความในคดีอย่างแยบยล คำถามที่เป็นประเด็นใจกลางของบทละครเรื่องนี้เป็นคำถามที่ไม่ซับซ้อนมากนัก นั่นคือคำถามที่ว่าการยอมสละชีวิตของคนจำนวนน้อยกว่าเพื่อรักษาชีวิตของคนจำนวนมากกว่าเป็นสิ่งที่สมควรกระทำหรือไม่ หรือหากการกระทำนั้นเกิดขึ้นแล้ว ระบบกฎหมายจะต้องเอาผิดกับผู้กระทำหรือไม่ อย่างไรก็ตามคำถามที่ดูไม่ซับซ้อนนี้อาจจะตอบได้ยากกว่าที่คิด และถึงที่สุดแล้วอาจจะไม่มีคำตอบที่ถูกต้องเพียงคำตอบเดียว ในสถานการณ์แห่งความเป็นความตาย ผู้ที่จะต้องตัดสินใจในสถานการณ์นั้นซึ่งจะกลายเป็นจำเลยภายหลังอาจไม่มีเวลานั่งครุ่นคิดตรึกตรองชั่งน้ำหนักผลดีผลเสีย แต่อาจจะต้องตัดสินใจทันทีในขณะนั้น สถานการณ์จำลองในบทละครเรื่องนี้อาจเกิดขึ้นได้อีกนับครั้งไม่ถ้วนในบริบทของเหตุการณ์ที่แตกต่างกันไปอย่างมาก ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรค และเครื่องช่วยหายใจมีจำนวนจำกัด การช่วยคน ๆ หนึ่ง อาจมีความหมายเป็นการฆ่าคนอีกคนหนึ่ง อะไรเล่าที่จะต้องใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจ ผู้ที่ไม่ต้องอยู่ในฐานะที่จะต้องตัดสินใจในสถานการณ์บีบคั้นเช่นนั้น แต่จะต้องเป็นผู้พิพากษาหลังจากที่เหตุการณ์ทุกอย่างผ่านไปแล้ว จะพิพากษาผู้คนและเรื่องราวเหล่านั้นอย่างไร และแน่ใจได้อย่างไรว่าคำพิพากษาที่ตนพิพากษาไปนั้นจะยุติธรรม นี่เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่จะรบกวนจิตใจของผู้อ่านบทละครเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าจะอ่านจบไปแล้วและพิพากษาไปแล้วก็ตาม การใช้ฉากการพิจารณาคดีของศาลในรูปของบทละครเรื่องนี้ เฟอร์ดินันด์ ฟอน ชีรัค ทำอย่างสมจริงทั้งการบรรยายสภาพแวดล้อมและภาษาที่ใช้ อันที่จริงแล้วการออกนั่งพิจารณาคดีในศาลกับการเล่นละครเวทีดูจะไม่แตกต่างกันนัก และด้วยเหตุนี้ศาลกับละครเวทีจึงคล้ายคลึงกันมากกว่าที่เราคิด ผู้เขียนคำปรารภซึ่งมีประสบการณ์เป็นจำเลยในคดีไม่มารายงานตัวต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และในปัจจุบันยังสู้คดีอยู่ ไม่เคยตระหนักถึงความคล้ายคลึงกันระหว่างการพิจารณาคดีในศาลกับการแสดงละครเวทีจนกระทั่งได้รับประสบการณ์ที่ คสช. มอบให้นี้ ทุกครั้งที่ไปศาล ผู้เขียนคำปรารภรู้สึกเหมือนกำลังไปแสดงละคร เพราะในศาล แต่ละคนได้รับบทบาทแตกต่างกันไปเหมือนกับตัวละครที่แสดงละครเวที ต่างกันแต่เพียงว่าโดยทั่วไปแล้ว ละครเวทีมีฉากจบที่แน่นอนซึ่งถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่กระบวนพิจารณาของศาลนั้นโดยทั่วไปแล้วเราไม่รู้ฉากจบ แม้กระนั้นในฐานะที่ผู้เขียนคำปรารภเป็นนักกฎหมาย บางคดีผู้เขียนคำปรารภก็รู้ฉากจบหรือคาดเดาฉากจบได้แน่นอน ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ศาลเหมือนกับโรงละครมากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาลไทยในคดีที่เกี่ยวกับการเมืองในรอบทศวรรษเศษ ๆ มานี้ และด้วยเหตุนี้เมื่อได้อ่านนิยายในรูปบทละครเวทีของเฟอร์ดินันด์ ฟอน ชีรัค เรื่องนี้ ที่ไม่กำหนดฉากจบเป็นฉากเดียว อีกทั้งเปิดโอกาสให้ผู้อ่านพิพากษาคดีด้วย ผู้เขียนจึงรู้สึกว่านิยายเรื่องนี้จริงเสียยิ่งกว่าการพิจารณาคดีเกี่ยวกับการเมืองของศาลไทย ส่วนการพิจารณาคดีเกี่ยวกับการเมืองของศาลไทยกลับเป็นละครเวทียิ่งเสียกว่าละครเวทีอีก เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะฉากจบถูกกำหนดไว้แล้ว ส่วนที่เหลือทั้งหมดล้วนแต่เป็นการแสดงเท่านั้น จากคำปรารถ: วรเจตน์ ภาคีรัตน์
![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |
**กรุณาเลือกช่องทางติดต่อตามข้อสงสัยของคุณ ในกรณีที่คุณไม่สามารถติดต่อเจ้าของร้านได้ สามารถติดต่อมายังทีมงาน LnwPay แล้วเราจะช่วยเหลือคุณจนถึงที่สุด
หน้าที่เข้าชม | 198,891 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 132,162 ครั้ง |
เปิดร้าน | 8 เม.ย. 2563 |
ร้านค้าอัพเดท | 22 ต.ค. 2568 |