
บทวิจารณ์หนังสือ “เมื่อใดจึงเป็นชาติ”
โดยฐนพงศ์ ลือขจรชัย
“ชาติคืออะไร” เป็นคำถามที่ถูกให้ความสำคัญมากในโลกสมัยใหม่ การกำเนิดขึ้นของรัฐชาติ (nation-state) ได้สร้างความสับสนและมึนงงแก่ผู้ที่พยายามทำความเข้าใจมัน “รัฐคืออะไร” และ “ชาติคืออะไร” สิ่งใดเกิดขึ้นก่อนหรือสิ่งใดเกิดขึ้นภายหลัง ชาติได้ช่วยกันสร้างรัฐขึ้นมา หรือ รัฐ (สมัยใหม่) ต่างหากที่เป็นผู้ผลิตชาติขึ้น โดยทั่วไปแล้วรัฐชาตินั้นถูกปฏิบัติราวเป็นเป็นเนื้อเดียวกัน กล่าวคือ รัฐและชาติดำรงอยู่คู่กันมาอย่างยาวนาน มีความทรงจำร่วม รากเหง้า และภาษาร่วมกันของชาติและหมู่ชนในรัฐนั้น นิยายและละครย้อนยุค-อิงประวัติศาสตร์ได้ช่วยตอกย้ำความทรงจำนั้นให้เข้มข้นขึ้น พวกเราหมู่ชนภายในรัฐชาติต่างโกรธและเกลียดศัตรูร่วมกัน เทิดทูลและยกย่องวีรบุรุษร่วมกัน ชาติทำให้เกิดความรู้สึกราวกับว่าหมู่ชนภายในรัฐนั้น เป็นญาติพี่น้องที่ร่วมสายโลหิตกันมาอย่างยาวนาน
ฐนพงศ์ ลือขจรชัย ผู้เขียนหนังสือ "เสียดินแดนมลายู ประวัติศาสตร์ชาติ ฉบับ Plot Twist"
อย่างไรก็ดี ชาติในบริบทข้างต้นไม่อาจตอบคำถามได้เลย ว่ารัฐที่พึ่งเกิดใหม่ โดยเฉพาะรัฐที่รวมตัวกันภายใต้กรอบโครงของอาณานิคมนั้นเป็นชาติร่วมกันอย่างไร สิงคโปร์ เป็นเกาะเล็กๆ ที่แทบไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ก่อนยุคอาณานิคม และพึ่งจะแยกตัวจากมาเลเซียในวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1965 จะมีความทรงจำหรือร่วมสายโลหิตมาแต่อดีตได้อย่างไร หรืออินโดนีเซีย และพม่า ที่เต็มไปด้วยกลุ่มชาติพันธุ์ที่พูดคนละภาษาและมีการต่อสู้กันมาตลอด เพียงแต่ต้องรวมตัวกันภายใต้กรอบโครงเขตแดนของอาณานิคม จะกลายเป็นญาติพี่น้องที่มีศัตรูและวีรบุรุษร่วมกันได้อย่างไร
วอล์กเกอร์ คอนเนอร์ (Walker Connor)
การพยายามศึกษาว่า “ชาติคืออะไร” จึงดูเป็นคำถามที่สร้างข้อถกเถียงไม่รู้จบในตัวมันเอง วอล์กเกอร์ คอนเนอร์ (Walker Connor) จึงได้ลองตั้งคำถามใหม่ว่า “เมื่อใดจึงเป็นชาติ” หรือ “ณ จุดใดของพัฒนาของการพัฒนาการที่ ‘ชาติ’ ได้ถือเกิดขึ้น” แน่นอนว่าคำถามนี้ก็อาจจะไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเพราะชาติเองได้พัฒนาและช่วงชิงความหมายอยู่เสมอ คอนเนอร์ ได้ยกงานของ ยูจีน เวเบอร์ (Eugene Weber) เรื่อง จากชาวนาสู่การเป็นชาวฝรั่งเศส : การทำชนบทฝรั่งเศสให้ทันสมัย ปี 1870-1914 โดยข้อเสนอสำคัญในงานนั้นระบุว่า ผู้คนส่วนใหญ่ในชนบทและเมืองเล็กๆ ของฝรั่งเศสนั้นไม่เคยรรับรู้ว่าตนเป็นสมาชิกของชาติฝรั่งเศส จนกระทั่งถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ข้อค้นพบนี้สร้างความมึนงงให้แก่โลกวิชาการอย่างมาก เพราะฝรั่งเศสเองถูกมองเป็นต้นแบบของการสร้าง “รัฐชาติ” โดยมีการศึกษาและข้อสรุปมากมายถึงการก่อกำเนิดขึ้นของ “ชาติฝรั่งเศส” ที่มีมากตั้งแต่ยุคกลางจากนักวิชาคนสำคัญหลายท่าน
หนังสือของยูจีน เวเบอร์
เมื่อต้นแบบของชาติอย่างฝรั่งเศสได้ล้มลงจากการศึกษาของเวบอร์ ข้อค้นพบทำนองนี้ได้เกิดขึ้นอย่างท่วมท้นในสังคมยุโรป ซึ่งทำให้คำถามว่า “เมื่อใดจึงเป็นชาติ” กลายเป็นคำถามสำคัญและควรค่าแก่การทำความเข้าใจอย่างยิ่ง หากชาติที่พูดถึงเป็นเรื่องของมวลชน ประชาชนภายในรัฐไม่ใช่เพียงเรื่องของชนชั้นนำเท่านั้น ดังที่ตัวชาติเองนั้นกล่าวอ้างอยู่เสมอ ดังนั้น “เมื่อใดจึงเป็นชาติ” จึงเป็นคำถามต่อชาติของมวลชนคนทั่วไป แต่คำถามว่า “ชาติคืออะไร” มักจะเป็นคำถามต่อความคิดของชนชั้นนำเสียมากกว่า คอนเนอร์ ตั้งคำถามต่อชาติชนชนชั้นนำไว้อย่างแรงว่า
“...การเอาความคิดของชนชั้นนำไปอ้างว่าเป็นความคิดของผู้คนโดยทั่วไปเพื่อยืนยันถึงการมีอยู่ของสำนึกของความเป็นชาตินั้นสมควรจะต้องถูกตั้งคำถาม น่าสงสัยว่าจนกระทั่งปัจจุบัน พวกชนชั้นนำที่มีความคิดแบบชาตินิยมจะเคยนับบ้างหรือไม่ว่ามวลชนเหล่านั้นเป็นส่วนหนึ่งของชาติ...”
“เมื่อใดจึงเป็นชาติ” สำหรับคอนเนอร์ จึงเป็นเรื่องสำคัญว่า ในขณะที่กระบวนการก่อตัวของชาติกำลังดำเนินไปนั้น จุดใดคือจุดที่ประชาชนจำนวนมากพอจะยอมรับอัตลักษณ์ของชาติเอาไว้เข้าในในสำนึกของตน ซึ่งจะทำให้ชาตินิยมมีพลังในการขับเคลื่อนมวลชน
ข้อเสนอของคอนเนอร์ได้นำพาเราไปตั้งคำถามต่อชาติอีกแบบหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วย แอนโทนี ดี. สมิธ (Anthony D. Smith) ในบทความต่อมา ได้ตั้งวิพากษ์ข้อเสนอของ คอนเนอร์ว่า “หากใครรู้สึกว่าการมีส่วนร่วมของมวลชน เป็นเกณฑ์ชี้ขาดที่กำหนดมโนทัศน์ว่าด้วยชาติ หรือหากนักวิเคราะห์คนไหนสนใจแต่ชาติของมวลชนเท่านั้นแล้ว การสืบค้นไปสู่จุดเริ่มต้นทางประวัติศาสตร์ของความเป็นชาติย่อมเป็นอันต้องล้มเลิกกันไป” และยืนยันว่า “ช่วงเวลามหัศจรรย์ที่ชาติถูกเนรมิตขึ้นมาได้อย่างปุบปับนั้นไม่เคยมีอยู่จริง”
แน่นอนว่าข้อเสนอของสมิธและคอนเนอร์ ก็ได้ถูก จอห์น เบรยยี่ (John Breuilly) วิพากษ์อีกเช่นกัน ในบทความ “กำหนดเวลากำเนิดของชาติ: ชาติโบราณ มีอายุยาวนานแค่ไหน” ว่า “ข้าพเจ้าไม่คิดว่าชาตินิยมสมัยใหม่จะพัฒนาขึ้นมาจากกลุ่มชาติพันธุ์แบบนี้หรือจากปมเชิงปกรณัม-สัญลักษณ์ของคนกลุ่มดังกล่าว...” และ “แม้แต่ในกรณีของชาติของอภิสิทธ์ชน อุดมการณ์ของชาติสมัยให้ส่วนใหญ่แล้วถูกสร้างขึ้นเพื่อต่อต้านชนชั้นนำก่อนยุคสมัยใหม่” กล่าวคือ ไม่มีชาติในกรณีใดเลยที่เกิดขึ้นก่อนสมัยใหม่ตามคำกล่าวอ้างของสมิธ และคำถามว่าเมื่อใดชาติจึงสำเร็จในจุดที่มวลชนยอมรับอัตลักษณ์ของชาตินั้นไม่ได้สำคัญ เพราะชาติพึ่งจะก่อเกิดขึ้นในยุคสมัยใหม่เท่านั้น
และแน่นอนบทสุดท้ายของหนังสือยังปิดท้ายด้วย การที่คอนเนอร์โต้ตอบเบรยยี่ในบทความชื่อ “รุ่งอรุณแห่งชาติ” อันเป็นการปิดฉากหนังสือเล่มนี้ได้อย่างสมบูรณ์ โดยสรุปแล้ว หนังสือ “เมื่อใดจึงเป็นชาติ” เล่มนี้จึงได้รวบรวมข้อเสนอและข้อถกเถียงต่อคำถามว่า “เมื่อใดจึงเป็นชาติ” ให้ผู้อ่านได้ขบคิดอย่างลุ่มลึกและท้าทายต่อความเชื่อเรื่องชาติแบบเดิมๆ ได้อย่างถึงแก่น นอกจากนี้ยังมีบทความของ ธเนศ วงศ์-ยานนาวา และแดเนียล คอนแวร์ซี (Daniele Conversi) ที่ได้ทำการสรุป วิเคราะห์ แยกแยะ ข้อเสนอในเรื่องชาติแบบต่างๆ อย่างละเอียด หนังสือเรื่องนี้ยิ่งควรค่าอย่างยิ่งในการอ่านเพื่อทำความเข้าใจ “ชาติ” สิ่งที่ดำรงอยู่ในชีวิตประจำวันของเรา สิ่งที่พวกเรายึดมั่นถือมั่น แต่ไม่เคยตั้งคำถามกับมัน
________________________________________________________________________________________________________________________________
เมื่อใดจึงเป็นชาติ
When is a Nation?