โดย ปกรณ์ เลิศเสถียรชัย
ที่ผมเขียนต่อไปนี้ อาจจะถือเป็นบทสนทนากับสิกขา สองคำชุม ที่เขียนบทความ “คำถามสองข้อเกี่ยวกับเทคโนโลยี” ใน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีศึกษา: ความรู้ฉบับเบื้องต้น ของ เซร์ฆิโอ ซิสมอนโด (
ในบทที่ 9 "คำถามสองข้อเกี่ยวกับเทคโนโลยี" ในหนังสือ Intro STS ผมถือว่าเป็นบทหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญในเล่มนี้ เพราะเป็นบทที่เราจะเริ่มขยับจากข้อถกเถียงที่ค่อนข้างเป็นไปในเชิงปรัชญา มาสู่การพิเคราะห์สภาพสังคม-เศรษฐกิจ-การเมือง ของความรู้ ST มากขึ้น ผมมองว่าบทนี้เป็นบทตัดแบ่งครึ่งเล่มแรกกับครึ่งเล่มหลัง ทั้งนี้ ถ้าหากใครไม่ได้ "อิน" กับข้ออภิปรายที่ค่อนข้างนามธรรมในครึ่งเล่มแรก ก็สามารถข้ามมาอ่านครึ่งเล่มหลังที่ค่อนข้างมีรูปธรรมกว่าได้ (แต่ทั้งนี้ผมก็แนะนำให้อ่านทั้งเล่มอยู่ดี แม้จะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่การเห็น "ภูมิทัศน์ความรู้" STS ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ)
รูปที่ 1. บทที่ 9 ในหนังสือ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีศึกษา: ความรู้ฉบับเบื้องต้น
ทั้งนี้ ในโลกปัจจุบัน ที่ AI ดูเหมือนกับจะถูกยกให้มีบทบาทเชิง "ครอบงำ" มากขึ้น ข้อคำถาม 2 ข้อในบทที่ 9 (ได้แก่ "เทคโนโลยีเป็นวิทยาศาสตร์ประยุกต์หรือไม่" และ "เทคโนโลยีขับเคลื่อนประวัติศาสตร์หรือไม่") ดูจะมีความสำคัญยิ่งขึ้น หากพิจารณาสอดคล้องกับความกังวลในโลกเป็นจริงที่ว่า สังคมจะยอมเป็นฝ่ายตั้งรับต่อบรรษัทขนาดใหญ่ ที่พัฒนาเทคโนโลยีที่อยู่ใน "กล่องดำ" เช่นนั้นหรือ หรือว่า สังคมจะต้องหาทางทวงคืนอำนาจการกำกับ รวมถึงอำนาจตั้งแต่ต้นทาง อันหมายถึงการสรรสร้างเทคโนโลยีให้ได้
แน่นอนว่ากรอบคิด "การประกอบสร้างทางเทคโนโลยีของสังคม" (Social Construction of Technology: SCOT) เป็นเหมือนกรอบแว่นที่ช่วยส่องประเด็นนี้ให้ชัดเจนขึ้น และเป็นกรอบคิดที่แคะให้เห็นว่า เทคโนโลยีไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างที่เป็นอยู่ก็ได้ เรามีทางเลือก แต่เราก็มิใคร่จะตระหนักถึงศักยภาพในข้อนี้
นี่นำมาสู่ปฏิบัติการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนหลายแห่งในปัจจุบัน ที่ไม่พอใจกับระบบที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะระบบเทคโนโลยี ข้อสำคัญคือ ปฏิบัติการหลายอย่างที่เกิดขึ้น พยายามก้าวข้ามบทบาท "ตั้งรับ" ซึ่งหมายถึงว่า การยอมรับบทบาทแค่เป็นผู้เลือกเทคโนโลยีที่ออกแบบมาแล้วเท่านั้น แต่มุ่งสู่การ "ร่วมออกแบบ" (co-design) ด้วย นั่นคือการกำหนดเทคโนโลยีตั้งแต่ต้นทาง ให้ต้องคำนึงถึง "คุณค่าทางสังคม" แต่แรก หนังสือที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แม้จะไม่ได้กล่าวถึง STS โดยตรง คือ "ออกแบบ: เมื่อทุกคนร่วมออกแบบ" ของสำนักพิมพ์อินี่บุ๊คส์ ในเล่มนี้กล่าวไปถึงในทำนองที่ว่า เมื่อออกแบบเทคโนโลยี (หรือนวัตกรรมทางสังคม) ก็คือออกแบบความสัมพันธ์ทางสังคมที่สอดคล้องกันด้วย
รูปที่ 2. ปกหน้าหนังสือ "ออกแบบ: เมื่อทุกคนร่วมออกแบบ"
ทั้งนี้ งานเชิงปฏิบัติการสำคัญ ที่ใช้หลักการ "การประกอบสร้างทางเทคโนโลยีของสังคม" (SCOT) แม้จะไม่ใช้คำนี้ตรง ๆ ในความเห็นของผมคือ งานอย่างเช่น digital platform "ตามสั่งตามส่ง" ฯลฯ โดย issie ที่ร่วมออกแบบโดยพยายามปรับสมดุลอำนาจภายในระบบเทคโนโลยีเสียใหม่ เชื้อชวนให้ผู้เสียเปรียบ ได้แก่ วินมอเตอร์ไซค์ และร้านอาหารตามสั่ง (อาจเรียกตามภาษา SCOT ได้ว่า "กลุ่มสำคัญทางสังคม") เข้ามามีบทบาทนำมากขึ้น อนึ่ง ในการเปลี่ยนแปลงนี้ ผู้สร้างเทคโนโลยีย่อมต้องปรับเปลี่ยนเช่นกัน คือ ไม่อาจจำกัดตนเองแค่เป็นผู้มอบทางเลือกเทคโนโลยีให้กับกลุ่มสำคัญทางสังคม แต่ต้องร่วมเรียนรู้โจทย์ปัญหาของกลุ่มสำคัญทางสังคมแต่แรกด้วย
รูปที่ 3. ตามสั่ง-ตามส่ง: แพลต์ฟอร์มที่ให้พี่วินแถวบ้าน ส่งคน – ส่งอาหาร แบบไม่คิดค่าบริการและไม่หักหัวคิว; รูปจาก https://www.chula.ac.th/highlight/90068/
ลักษณะของปฏิบัติการเช่นนี้ จึงอาจเรียกได้ว่า ย้อนทางกับวิธีคิดด้วยตัวแบบเชิงเส้น ที่มองวิทยาศาสตร์เป็นฐานมุ่งสู่การประยุกต์เป็นเทคโนโลยี ในวิธีคิดนี้ บทบาทของสังคมศาสตร์ จะถูกมองแค่เป็นผู้ที่ต้องช่วยสร้างการยอมรับเทคโนโลยี ในทางตรงกันข้าม สังคมศาสตร์ควรต้องสร้างความสัมพันธ์ทางสังคม (หรือคำอื่นๆ แล้วแต่จะเรียก เช่น ระบบนิเวศ, ระบบนวัตกรรม, สถาบัน ฯลฯ) ที่เอื้อให้เกิดเทคโนโลยีนั้น ๆ โดยคำนึงถึงประเด็นเชิงคุณค่า คำถามพ่วงสำคัญคือ หน่วยงานในระบบ ววน. พร้อมจะก้าวข้าม ตัวแบบเชิงเส้นอย่าง Technology Readiness Level หรือ ระดับความพร้อมของเทคโนโลยี ที่ใช้พิจารณาการให้ทุนวิจัย/นวัตกรรม มาเป็นการพิจารณาการร่วมรังสรรค์/ร่วมออกแบบโดยสังคมบ้างหรือไม่
ประเด็นที่เหมือนกับเป็นประเด็นแฝงคือ เราจะก้าวข้ามการแบ่งแบบแยกขาดระหว่าง "การวิจัยพื้นฐานล้วน ๆ" กับ "การวิจัยประยุกต์ล้วน ๆ" ได้หรือไม่ ซึ่งอาจจะไม่พาเราไปไหน ไม่ต่างจากคำขวัญว่า "จากหิ้งสู่ห้าง" ซึ่งอาจจะนำพาให้เรามองแต่ระยะสั้นและฉาบฉวย แต่เราจะสามารถเห็นทางเลือกอื่นหรือไม่ เช่น "การวิจัยพื้นฐานที่มีแรงบันดาลใจจากประโยชน์" (use-inspired basic research) ซึ่งผสานสองขั้วเข้าด้วยกัน และแน่นอน ต้องเกิดจากการนำกลุ่มทางสังคมที่หลากหลาย มาพูดคุยกันให้เห็นความจำเป็นของความรู้พื้นฐาน ที่นำไปสู่ประโยชน์ได้ (ดูได้จากหนังสือ Pasteur's Quadrant ของ Donald E. Stokes)
รูปที่ 4. Pasteur's quadrant schematic ของ Donald Stokes
สุดท้าย ทั้งหมดเกิดขึ้นภายใต้อุดมการณ์ของการทำให้การผลิตความรู้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ถ้าพื้นที่ความรู้ตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกกดทับ (รวมถึงปิดปากตนเอง) เช่นในกรณีมหาวิทยาลัย ความหวังของการมีความรู้เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม (social transformation) ซึ่งเป็นเชื้อไฟของ STS ในนาม Science and Technology for Society ก็คงไม่มีจริง
หน้าที่เข้าชม | 198,891 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 132,162 ครั้ง |
เปิดร้าน | 8 เม.ย. 2563 |
ร้านค้าอัพเดท | 22 ต.ค. 2568 |